Space jockey

        


       ในเบื้องต้นโปรดทำความเข้าใจก่อนว่า ชื่อเดิมของเอเลี่ยนนั้นคือ " Xenomorph(ซีโนมอร์ฟ) " เพราะจริงๆแล้ว "Alien" เป็นคำกลางๆใช้เรียกสิ่งมีชีวิตต่างดาวทั้งหมด "Predator" ก็เป็นเอเลี่ยนชนิดหนึ่งเช่นกัน แต่เผอิญคำนี้ถูกนำมาใช้เรียกเจ้าตัวเอเลี่ยนพันธุ์ "ซีโนมอร์ฟ" ผ่านทางภาพยนตร์จนโด่งดังไปทั่วโลก เมื่อพูดถึงเอเลี่ยนเราจึงมักเข้าใจว่าคำนี้เป็นชื่อเฉพาะของซีโนมอร์ฟไปโดยปริยาย(เหมือน ผงซักฟอก "แฟ้บ" และ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป "มาม่า" นั้นเอง)

 เอเลี่ยนพันธุ์ซีโนมอร์ฟดั้งเดิมนั้นมิได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอย่างสิ่งมีชีวิตทั่วไป แต่เกิดจากการสร้างขึ้นด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีพันธุวิศวกรรมเชิงกลชั้นสูง ที่เรียกว่า "Biomechanics" หรือ จักรกลชีวะ! ถ้าสังเกตดีๆเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเจ้าเอเลี่ยนซีโนมอร์ฟนี้มีเค้าโครงกึ่งเครื่องจักรกึ่งสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะลักษณะผิวหนังที่ดูคล้ายเป็นท่อปล้องของเครื่องยนต์ และตามตำนานผู้ที่ให้กำเนิดนวัตกรรมล้ำเลิศชิ้นนี้ก็คือ " Space Jockey (สเปซ จ๊อกกี้)" เรียกสั้นๆว่า "Jockey" หรืออีกชื่อ "The Pilot"





Space Jockey มาจากไหน ?


Space Jockey คือ ชื่อเรียกสปีชี่ส์ต่างดาวโบราณเผ่าหนึ่งที่มีชีวิตอยู่ในช่วงประมาณ สามพันล้านปีก่อนคริสตกาล! พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิทยาการ "Biomechanics" Jockey มีรูปร่างแขนขาคล้ายมนุษย์แต่ตัวโตสูงใหญ่กว่ากันมาก ความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4-6 เมตร และมีจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเผ่าพันธุ์คือ จมูกยาวเป็นงวงคล้ายงวงช้าง ในภาพยนตร์ Alien ภาค1เราจะเห็นซากฟอสซิลของJockeyตนหนึ่งหลงเหลืออยู่ภายในซากยาน "The Derelict Spacecraft" บน "ดาว LV-426" ซึ่งอยู่ในลักษณะท่านั้งกึ่งนอนโดยร่างกายดูเหมือนแทบจะติดกลืนเป็นเนื้อเดียวกันกับแท่นที่นั้งนั้น และเมื่อสังเกตดีๆก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า รูปลักษณ์พื้นผิวทั้งภายนอกและภายในของยาน Derelict กับซากSpace jockey มีรูปแบบเป็น Biomechanics กึ่งเครื่องจักรกึ่งชีวะเช่นเดียวกันกับ Alien



ที่มาของการสร้าง Alien


เริ่มจากในช่วงประมาณตอนปลายแห่งยุคที่ Space Jockey รุ่งเรืองยิ่งใหญ่อยู่นั้น Jockey เกิดความขัดแย้งสู้รบทำสงครามกับศัตรูเผ่าต่างดาวเผ่าหนึ่ง(ไม่ปรากฏชื่อว่าเป็นพวกไหน แต่คงต้องยิ่งใหญ่เกรียงไกรพอๆกัน) สงครามดำเนินยืดเยื้อกินเวลายาวนานไม่มีทีท่าว่าจะแพ้ชนะกัน เนื่องจากต่างฝ่ายต่างแข็งแกร่ง พวก Space Jockey จึงระดมพลนักวิทยาศาสตร์ชั้นหัวกระทิ ทำการวิจัยทดลองพัฒนาเพื่อสร้างอาวุธมหาประลัยอย่างลับๆบนดาวเคราะดวงหนึ่งที่ชื่อว่าดาว " Proteus" หรือ "โปรทีอุส"  และแล้วในที่สุดการทดลองค้นคว้าของพลพรรคนักวิทยาศาสตร์ Jockey ก็ประสบความสำเร็จ ปรากฏผลออกมาเป็นนวัตกรรมอาวุธมีชีวิตอันแสนอัศจรรย์พันลึก ได้รับการขนานนามเริ่มแรกว่า "Xenomorph" หรือที่พวกเรารู้จักกันดีในนามตัว "Alien" นั้นเอง โดยตั้งชื่อเรียกรุ่นแรกที่ผลิตออกมาว่า รุ่น "Prototype(โปรโตไทป์)" ซึ่งมีลักษณะชีวิตที่ค่อนข้างซับซ้อนดังนี้

1 . ซีโนมอร์ฟโปรโตไทป์ ที่เป็นตัวเต็มวัยปกตินั้น เกิดมาจากการวางไข่ของซีโนมอร์ฟนางพญา โดยนางพญาสามารถวางไข่แพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็วคราวละนับพันๆหมื่นๆฟองแล้วแต่การโปรแกรมสั่งการจาก Space Jockey
2 . ไข่ทั้งหมดที่เกิดจากนางพญามีตัวอ่อนอยู่ด้านใน มันจะออกจากไข่แล้วจู่โจมฆ่าเหยื่อที่อยู่ใกล้ๆตามการโปรแกรมของ Jockey ทำการเข้าไปฝังภายในร่างเพื่อฟักตัวและออกจากร่างเหยื่อนั้นเติบโตเป็นตัวเต็มวัยปกติต่อไป โดยพวกมันจะไม่เติบโตเป็นตัวนางพญาเสียเอง นั้นหมายถึงพวกมันเป็นหมันไม่สามารถวางไข่สืบพันธุ์ได้ ที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องจาก...(ข้อถัดไป)
3 . นางพญามีโครงสร้างทางชีวะเชิงกลที่ซับซ้อนกว่าตัวตัวเต็มวัยปกติมาก จึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ จะกำเนิดเป็นตัวตนขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อมีการเพาะเชื้อและโปรแกรมคำสั่งขึ้นใหม่โดยอาศัยกลไกวิทยาศาสตร์แบบBiomechanics ซึ่งกระทำโดยนักวิทยาศาสตร์ Jockey ผู้ชำนาญการจริงๆเท่านั้น และเหตุที่มีข้อจำกัดเช่นนี้ก็หาใช่ความบกพร่องของนักวิทยาศาสตร์ Jockeyไม่ แต่ทั้งนี้เป็นความจงใจเพื่อความสะดวกในการควบคุมจำนวนของเอเลี่ยนได้ตามต้องการนั้นเอง นี่คือความหลักแหลม รอบคอบและรัดกุมของ Space jockey


รูป Alien รุ่น Prototype จะเห็นว่ารูปลักษณ์ไม่เหมือนกับเอเลี่ยนที่เราคุ้นเคย พบหลักฐานแค่รูปนี้รูปเดียวเท่านั้น




รุ่นโปรโตไทป์ เป็นรูปลักษณ์ดั้งเดิมของซีโนมอร์ฟ แรกเริ่มนั้นพวกมันมีรูปลักษณ์ที่ตายตัว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมหรือลักษณะร่างกายสีสันไปตามพันธุ์เหยื่อที่มันฟักตัว เพราะยังไม่ได้วิวัฒนาการกลายพันธุ์ (รุ่นหลังๆที่กลายพันธุ์แล้ว จะเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปตามDNAของเหยื่อที่มันเข้าไปฟักตัว ซึ่งเป็นรุ่นที่คุ้นเคยกันดี ดังที่ได้ปรากฎในภาพยนตร์หรือฉบับการ์ตูนคอมมิคทั่วไปนั้นเอง) รุ่นโปรโตไทป์เดิมนั้นจะเชื่อฟังคำสั่งและอยู่ภายใต้การควบคุมของ Space Jockey ทุกประการ เพราะร่างกายของมันเป็นเสมือนโปรแกรมพันธุกรรมที่เป็นไปตามการโปรแกรมคำสั่งการจาก นักวิทยาศาสตร์ Space Jockey ทำงานคล้ายๆคอมพิวเตอร์ที่ต้องป้อนคำสั่งให้กระทำการต่างๆตามที่ต้องการ ส่วนจักรกลชีวะอย่างเอเลี่ยนจะใช้รหัสพันธุกรรมเป็นตัวโปรแกรมคำสั่งแทน


เมื่อได้ Xenomorph มาแล้ว Space Jockey ก็ไม่รอช้า ทำก่อการลอบนำไข่เอเลี่ยนจำนวนนับล้านๆใบไปทิ้งไว้บนดาวของศัตรูคู่สงคราม ในเวลาไม่ช้าดาวทั้งดวงนั้นจึงเต็มไปด้วยฝูงเอเลี่ยนซีโนมอร์ฟ ศัตรูคาดไม่ถึงว่าจะมีอะไรพึลึกกึกกือแถมร้ายกาจเช่นนี้ ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงถูกฆ่าล้างโคตรสูญพันธุ์เสียสิ้นหมดทั้งดาวภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เผ่า Space Jockey กำชัยชนะเหนือศัตรูได้อย่างง่ายดาย แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าอาวุธที่เขาสร้างขึ้นมานั้นมัน นานวันเข้ากลับมีกลไกวิเศษเกินกว่าที่ได้ออกแบบไว้แต่แรกเสียอีก และในที่สุดมันจะนำจุดจบอันโหดร้ายมาสู่พวกเขาเองด้วยเช่นกัน

จุดจบของ Space Jockey






ในระยะเวลาไม่นานนักหลังชนะสงคราม สัญญาณหายนะได้ก่อตัวขึ้น นักวิทยาศาสตร์ Space Jockey ค้นพบว่าบางพื้นที่บนดาวบ้านเกิดของพวกเขาเองนั้น ได้เกิดการแพร่ระบาดของเอเลี่ยนอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่ไม่ได้มีการโปรแกรมให้นางพญาผลิตไข่เพิ่มและก็ไม่ได้มีการนำไข่ออกไปทิ้งไว้ภายนอกแต่อย่างใด โดยปกติตัวเอเลี่ยนและไข่จะถูกกักไว้ให้อยู่แต่เฉพาะภายในห้องควบคุมที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษเท่านั้น แสดงว่าต้องมีไข่หรือตัวอ่อนบางตัวหลุดออกไปภายนอก! และที่น่าฉงนสนเท่ห์ก็คือ เอเลี่ยนตัวอ่อนรุ่นใหม่ๆที่หลุดออกไปบางส่วนนั้นได้เกิดการกลายพันธุ์เติบโตขึ้นเป็นตัวนางพญาได้เอง มันสามารถวางไข่แพร่พันธุ์ได้เยี่ยงสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติทั่วไปไม่ต้องผ่านการโปรแกรมของ นักวิทยาศาสตร์Jockey แถมที่พิเศษไปกว่านั้นลูกๆตัวเต็มวัยรุ่นใหม่อันเกิดจากเอเลี่ยนนางพญากลายพันธุ์นั้น มันสามารถมีรูปลักษณ์เปลี่ยนไปตามDNAตัวเหยื่อที่มันเข้าไปฟักตัว!(รายละเอียดการเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปตามDNAของเหยื่อ ดูวัฏจักรชีวิตเอเลี่ยน) สัญญาณนี้ทำให้พวกJockeyเริ่มตระหนักถึงภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น และที่ยุ่งยากหนักขึ้นไปอีกก็คือ ไม่รู้ว่าเหล่านางพญาแพร่กระจายซุกซ่อนทำรังวางไข่อยู่ที่ไหนกันบ้าง พวกมันได้ทำการวางไข่ออกมาอย่างบ้าคลั่ง! จึงส่งผลให้เกิดเอเลี่ยนซีโนมอร์ฟรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประหนึ่งเหมือน กรรมตามสนอง! เหล่าเอเลี่ยนรุ่นใหม่นี้ได้ไล่ล่าฆ่าประชาชนชาวJockey ล้มตายอย่างรวดเร็ว นอกจากฆ่าแล้วมันยังทำการขนร่างเหยื่อไปไว้ที่รังนางพญาเพื่อให้ไข่ของพวกมันได้ฟักตัวเติบโตแพร่พันธุ์ต่อไปอีกต่างหาก มันจึงยิ่งแพร่พันธุ์รวดเร็วเป็นทวีคูณ! เหล่าพลพรรค Space Jockey พยายามทำทุกวิถีทางที่จะควมคุมและกำจัดพวกมัน แต่โชคร้ายพวกมันมีจำนวนมหาศาลเกินกว่าจะกำจัดให้หมดไปได้ง่ายๆภายในเวลาอันสั้นเสียแล้ว แม้อาวุธยุทโธปกรณ์ของJockeyจะทันสมัยร้ายแรงสักปานใดก็มิอาจยับยั้งทำลายล้างพวกมันให้หมดไปได้ในคราวเดียว เห็นทีจะมีแค่ทางเดียวเท่านั้นคือ ระเบิดล้างดาวทั้งดวง! ซึ่งไม่ใช่ทางออกที่ดีนักเพราะจะเป็นฆ่าประชาชนพี่น้องเผ่าพันธุ์ตัวเองให้ตายไปด้วย! Jockey จึงไม่เลือกวิธีนี้ ยังคงค่อยต่อสู้ยันทัพกับเอเลี่ยนต่อไปตามกำลังที่มี


ท้ายที่สุด พวก Jockey แก้ปัญหาโดยการส่งนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำจำนวนหนึ่งโดยสารยานที่ชื่อว่า "The Derelict Spacecraft" อพยพกันอย่างฉุกละหุกไปยังดวงดาวเป้าหมายดวงหนึ่ง(ไม่มีหลักฐานว่าชื่อดาวอะไร)เพื่อจะได้รอดพ้นจากการก่อกวนของพวกเอเลี่ยน โดยได้เก็บตัวอย่างเหล่าเอเลี่ยนทั้งที่เป็นไข่ ตัวเต็มวัยและนางพญาบางส่วนที่เกิดจากการวิวัฒนาการตัวเองรุ่นหลังนั้นไปด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อไปทำการศึกษาวิจัยหาทางแก้ไขสถานะการณ์แล้วจึงกลับมารับมือจัดการกับเอเลี่ยนอย่างเร่งด่วนที่สุดต่อไป แต่สุดท้ายยานลำนั้นก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะไปถึงยังดาวเป้าหมายดังที่ได้ตั้งใจไว้ เนื่องจากเอเลี่ยนได้เกิดหลุดออกมาจากห้องควบคุมภายในยาน และทำการอาละวาดจู่โจมนักบินบังคับยานเสียชีวิตแถมตัวอ่อนได้เข้าไปฟักตัวภายในร่าง(ก็คือ Jockey ตัวที่เหลือซากฟอลซิลให้เราได้เห็นกันในหนัง alien ภาค 1นั้นเอง) เมื่อปราศจากนักบินบังคับยานอย่างกระทันหันเช่นนี้ ยานจึงเสียหลักหลุดตกไปในดาวแคระลึกลับที่ถูกตั้งชื่อภายหลังโดยมนุษย์เราว่า ดาว "LV-426" แม้พลพรรคลูกยาน Jockey คนอื่นๆที่เหลืออยู่จะสามารถรับมือต่อสู้กับเอเลี่ยนที่หลุดออกมาได้บ้าง แต่ยานได้ร่อนลงกระแทกพื้นดาวLV-426 อย่างรุนแรง ยานจึงเสียหายอย่างหนักจนไม่อาจซ่อมแซมให้ใช้การได้อย่างทันท่วงที สิ่งที่พวกเขาทำได้มีเพียงส่งคลื่นสัญญาณออกไปรอบๆดวงดาวแห่งนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือจากยานต่างดาวอื่นๆที่อาจจะผ่านมาในวงโคจรแต่ก็ไม่เป็นผลใดๆ ในท้ายที่สุดนักวิทยาศาสตร์ชาว Space Jockey ทุกชีวิตบนยาน Derelict ก็เป็นอันต้องจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถด้วยจักรกลชีวะมหาประลัยที่พวกตนคิดค้นและสร้างมันขึ้นมาด้วยน้ำมือของตัวเอง ส่วน ณ ดาวบ้านเกิด เหล่า Space jockey ก็ต้องเผชิญกับจุดจบอันน่าเศร้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน เอเลี่ยนทำลายล้างทุกชีวิตจนแทบสูญพันธุ์สิ้น อารยธรรม Space Jockey ที่เคยยิ่งใหญ่เกรียงไกรก็เป็นอันต้องปิดฉากล่มสลายยุติลง ณ บัดนั้นเอง คงเหลือแต่พงศ์พันธุ์อสูรกายเอเลี่ยนเท่านั้นที่เป็นใหญ่ครอบครองดาวของ Jockey และในเวลาต่อมาเอเลี่ยนกลายพันธุ์รุ่นใหม่ก็ได้ฆ่ากินเอเลี่ยนรุ่นโปรโตไทป์ดั้งเดิมที่หลงเหลือให้สูญพันธุ์เสียสิ้นไปด้วยเช่นกัน นี่จึงเป็นเหตุที่ไม่มีเอเลี่ยนรุ่นดั้งเดิมโปรโตไทป์หลงเหลือให้เราได้ดูชมกันในยุคปัจจุบันเลยแม้แต่ตัวเดียว ย้อนกลับไปอีกรอบเมื่อครั้งที่เอเลี่ยนกลายพันธุ์รุ่นใหม่ได้แพร่พันธุ์และอาละวาดไล่ฆ่าก่อความโกลาหลไปทั่วดาวSpace Jockey ในช่วงเวลานั้นนอกจากมีการส่งยาน The Derelict ลำแรกออกจากดาวดังที่ได้ทราบกันมาแล้ว ในเวลาต่อมาก็ยังมียาน The Derelcit ลำอื่นๆรวมทั้งยานเล็กยานน้อยย่อยๆอีกหลายลำได้ทยอยกันอพยพหนีตายเพื่อออกไปหาที่พำนักแห่งใหม่ ณ ดาวดวงอื่นๆ บ้างก็มุ่งไปยังดาวอาณานิคม บ้างก็มุ่งไปยังดาวที่ตนและพวกพ้องเคยรู้จัก บ้างก็ยังไม่มีจุดหมายขอแค่ให้รอดชีวิตพ้นออกจากดาวบ้านเกิดของตนก่อนเป็นพอ แต่ปรากฏว่ายานเหล่านั้นทุกลำล้วนมีเอเลี่ยนแฝงตัวอยู่ด้วยทั้งสิ้นน้อยบ้างมากบ้างต่างกันไป แต่ที่แน่ๆคงไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกJockeyในยานเหล่านั้นจะประสบชะตากรรมเช่นใด และยานเหล่านั้นบางลำก็ได้ล่องลอยหลุดเข้าไปยังชั้นบรรยากาศจนตกลงบนดาวเคราะห์น้อยใหญ่สุดแท้แต่เส้นทางที่มันได้ล่องลอยไป ด้วยเหตุนี้นอกจากบนดาวของSpace Jockeyแล้ว เอเลี่ยนจึงยังได้กระจายแพร่พันธุ์อยู่บนดาวที่ยานได้ตกลงไปอีกด้วย

Credit photos and text :  http://www.avp.siligon.com/a_space.htm


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

About Me

สวัสดี เราชื่อศุภกานต์ สงมา ชื่อเล่น เดียร์ เราศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 / 5 เว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ส่งงานวิชาคอมพิวเตอร์ของเรา ถ้ามีข...